ทดสอบตั้งค่า เครือข่าย - อีเมลล์ เพื่อใช้งาน เนื่องจากในตัว DVR มี Functoin Alarm ที่สามารถแจ้งเตือนมาทาง Email ได้ทันทีหากตั้ง Function ...
ทดสอบตั้งค่า เครือข่าย - อีเมลล์ เพื่อใช้งาน
เนื่องจากในตัว DVR มี Functoin Alarm ที่สามารถแจ้งเตือนมาทาง Email ได้ทันทีหากตั้ง Function Alarm ใน DVR ให้ทำงานตามที่เราต้องการให้มันแจ้งเตือน โดยส่ง Alarm มาทาง Email ของเรา แต่เราต้องตั้งค่าที่เครื่องมือถือเราให้เกาะ Internet ไว้ตลอดเวลาเหมือนกับเราใช้ Line ที่ต้องมี Internet ใช้ได้ ณ ที่นั้นๆ ในบ้านก็เกาะ Wi-Fi ในบ้าน ออกนอกบ้านก็เปิด Data ของ Mobile ไว้ และตั้งค่า Email ในเครื่องมือถือไว้ให้พร้อมเปิดดูไว้ด้วย เท่านี้ก็พร้อมที่จะรับ Alarm ทาง Email ได้ตลอดเวลาแล้ว ซึ่งก็ไม่เปลืองค่า Internet มากเลยเพราะเป็นการส่งข้อมูลสั้นๆเพื่อแจ้งให้ทราบเท่านั้น มีประโยชน์มากๆจาก Function Alarm นี้หากเราสามารถตั้งค่าให้มันทำงานได้ จะเปรียบเหมือนเรามีเครื่องกันขโมยโดยใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่แล้ว จับความเคลื่อนไหวแล้วเตือนให้เราทราบได้ทันทีหรือหากเรามีตัว Sensor ต่อร่วมอยู่กับ DVR มันก็กลายเป็นเครื่องกันขโมยอย่างสมบูรณ์แบบไปเลยไม่ต้องไม่เสียเงินซื้อเครื่องกันขโมยอีกก็ได้ ซึ่ง Alarm ต่างๆที่ตัว DVR จะแจ้งเตือนเราได้ มีดังต่อไปนี้
1. แจ้งเตือนเมื่อกล้องจับความเคลื่อนไหวได้ อันนี้จะต้องตั้งค่าตำแหน่งในภาพที่กล้องนั้นๆว่าตรงจุดใดในภาพที่ต้องการให้ตรวจจับความเคลื่อนไหวพร้อมกับช่วงเวลาใดอย่างเฉพาะเจาะจงได้ เช่น รูปข้างล่างนี้ ตรงบริเวณตารางสีเขียวให้จับความเคลื่อนไหว (ไม่ได้สนใจพื้นที่ทั้งหมดที่กล้องจับเข้ามา)
2. แจ้งเตือนด้วยตัว Sensor ที่ต่อใช้งานร่วมกับ DVR อันนี้ต้องซื้อ sensor มาต่อร่วมกับ DVR ก็่จะกลายเป็นเครื่องกันขโมยที่มี Sensor มาช่วยอีกแรงหนึ่งนอกจากกล้องที่ติดตั้งอยู่แล้ว อาจไม่ต้องไปซื้อเครื่องกันขโมยอีกก็ได้ถ้ามี Sensor นี้
3. แจ้งเตือนเมื่อสัญญาณภาพจากกล้องขาดหายไป อันนี้เหมือนกับว่าหากกล้องถูกขโมยหรือถูกตัดสายหรือกล้องเสียไปเองก็ให้เตือนเราให้ทราบทันทีทาง Email ด้วย
4. แจ้งเตือนเมื่อ Harddisk เต็ม Function นี้มันจะให้เราตั้งว่า Harddisk เหลือเท่าไรจึงจะให้ส่ง Alarm (เป็น Drop-down ให้เราเลือกได้จาก 0 MB, 128,256,384,512,1024,2048 MB) เพื่อให้เราทราบและจัดการกับ Harddisk หากจำเป็น เช่นเก็บ BackUp หรือ Clear Harddisk ใหม่หรือ ตั้งค่า Harddisk ให้เหมาะสมกว่าเดิมว่าควรจะบันทึกภาพให้ละเอียดเท่าไรดีจะจึงเหมาะสมกับขนาดของ Harddisk ที่เรามีอยู่ ไม่เช่นนั้นอาจพลาด Shot ที่สำคัญไปได้เพราะไม่เคยทราบเลยว่า DVR ที่เรามีอยู่มันสามารถบันทึกได้นานเพื่อดูย้อนหลังไปได้กี่วันแน่ๆ
5. แจ้งเตือน Harddisk อันนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดเพราะมันมีข้อความเพียงว่า "เตือนฮาร์ดดิสก์" เท่านั้นจึงไม่ทราบว่าเตือนอะไรกับฮาร์ดดิสก์ (หากทราบแล้วจะมา Update ข้อมูลตรงส่วนนี้อีกครั้ง)
6. แจ้งเตือนเมื่อ ไม่พบฮาร์ดดิสก์ อันนี้ก็ขอเดาอีกครั้งว่าน่าจะเป็นปัญหาเมื่อ DVR มองไม่เห็น Harddisk ซึ่งน่าจะเป็นอาการของ Harddisk มีปัญหานั่นเองเพื่อให้เราแก้ไข Harddisk ได้ทันท่วงทีไม่เช่นนั้นการบันทึกภาพจากกล้องต่างๆก็จะทำไม่ได้เมื่อ Harddisk ใช้ไม่ได้
ครั้งแรกที่ทดสอบตั้งค่า เซิฟเวอร์อีเมล์ ดังนี้
เซอร์เวอร์อีเมลล์ = smtp.totisp.net (smtp server ของค่าย TOT)
พอร์ต = 25
อีเมลล์ผู้ส่ง = บัญชี gmail ที่ใช้บริการอยู้กับ gmail
รหัสผ่าน = ตามที่ตั้งค่าไว้กับ บัญชี gmail
อีเมลล์ผู้รับ = บัญชี email ของผู้ที่ต้องการให้รับ (ใสได้ 3 อีเมลล์)
ผลจากการตั้งค่าข้างต้น พบว่าไม่สามารถส่ง email หลังจากคลิ๊กปุ่ม "ทดสอบ" ได้ คือทดสอบไม่ผ่าน จึงทดลองเปลี่ยนไปใช้ บริการเซอร์เวอร์อีเมลล์ของ gmail แทนโดยตั้งใหม่ดังต่อไปนี้
เซอร์เวอร์อีเมลล์ = smtp.gmail.com (smtp server ของ gmail)
พอร์ต = 465 (ตามที่ gmail แจ้งไว้)
อีเมลล์ผู้ส่ง = บัญชี gmail ที่ใช้บริการอยู้กับ gmail
รหัสผ่าน = ตามที่ตั้งค่าไว้กับ บัญชี gmail
อีเมลล์ผู้รับ = บัญชี email ของผู้ที่ต้องการให้รับ ในที่นี้ใส่เป็นของตัวเองไว้ก็ได้ (ใสได้ 3 อีเมลล์)
ผลก็ยังไม่ผ่านการทดสอบให้ส่ง email ได้ และยังพบว่าทาง gmail มีการแจ้งเตือนว่าไม่อนุญาติให้ App ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยไม่สูงพอมาขอให้ gmail ส่ง email ให้ด้วย พร้อมทั้งแนะนำวิธีการตั้งค่าเพื่อลดความปลอดภัยของ gmail ลงมาเพื่อให้ gmail ยอมส่ง email ให้ใหม่ แต่ไม่ใช่วิธีที่ปลอดภัยและไม่แนะนำให้ใช้ด้วย จึงทดสอบใหม่โดยเปลี่ยนไปใช้ เซอร์เวอร์อีเมล์ ของ yahoo แทนโดยตั้งค่าดังต่อไปนี้
ผลการตั้งค่าตามรูปข้างบนนี้ ทำให้สามารถทดสอบการส่ง email ได้สำเร็จหลังจากคลิ๊กปุ่ม ทดสอบ แล้วดังรูปข้างล่างต่อไปนี้
โดยข้อมูลใน email ทดสอบที่ส่งมาจาก DVR มีข้อมูลเป็นตัวอย่างดังรูปข้างล่างนี้
ตามรูปจะเห็นข้อมูล
Device ID: 0, Device Name: EDVR_POP-EYE ตรงกับที่เราตั้งไว้ใน DVR ที่ทำการทดสอบนั้นๆ
Alarm Type: Test SMTP Settings, Time:2015-10-12 11:44:58 คือชนิดของ Alarm ที่ส่งมา และ วันเวลาที่ส่งมา
ต่อไปก็เหลือการทดลองทำให้เกิดเหตุการณ์ที่มี Alarm เกิดขึ้นแล้วดูว่า DVR มันจะส่ง Alarm มาให้ทราบทาง Email อย่างไรต่อไป
ผลการทดสอบ เมื่อทำให้เกิดการเคลื่อนไหว (Motion) ที่ตำแหน่งที่ต้องการตรวจจับไว้ DVR ก็จะทำการส่ง Alarm มาทาง Email ทันที ดังรูปข้างล่างนี้
ตามรูปข้างบน สังเกตที่ข้อความ
Channel ID: 1, Camera Name: CAMERA01
Alarm Type: Motion Alarm, Time: 2015-10-12 14:43:48
Channel ID ก็คือ กล้องตัวที่ต่ออยู่ที่ Channel ที่จับความเคลื่อนไหวได้ (ในที่นี้คือ Channel 1)
Camera Name คือ ชื่อของกล้องตัวที่ Channel ข้างต้น ในกรณีชื่อกล้องนี้แนะนำให้ตั้งชื่อกล้องไว้ด้วย และควรตั้งเป็นชื่อ ภาษาอังกฤษ จะดีกว่าชื่อ ภาษาไทย เนื่องจากหากตั้งชื่อกล้องไว้ด้วยมันจะใช้ชื่อที่เราตั้งไว้แทนคำว่า CAMERA01 ซึ่งจะสื่อให้ทราบได้ทันทีใน Email ที่ส่งมาเตือนว่าเป็นการจับความเคลื่อนไหวได้จากกล้องตรงจุดใด เพราะคำว่า CAMERA01 เราอาจจำไม่ได้ว่าเป็นกล้องตรงจุดใดนั่นเอง รวมทั้งหากตั้งชื่อเป็น ภาษาไทย ด้วยแล้วอาจมีปัญหา ชื่อกล้องอาจอ่านไม่ออกก็เป็นได้ เนื่องจากภาษาไทยอาจกลายเป็นรหัสตัวอักษรที่ผิดเพี้ยนไปได้เหมือนกัน จึงแนะนำให้ตั้งเป็นชื่อ ภาษาอังกฤษ จะแน่นอนกว่า อ่านออกแน่นอน แต่ก็ให้ผู้ใช้เข้าใจภาษาอังกฤษนั้นด้วยแล้วกันว่าแปลว่าอะไรหรือหมายถึงกล้องในจุดใดเมื่อใช้ภาษาอังกฤษ
เนื่องจากในตัว DVR มี Functoin Alarm ที่สามารถแจ้งเตือนมาทาง Email ได้ทันทีหากตั้ง Function Alarm ใน DVR ให้ทำงานตามที่เราต้องการให้มันแจ้งเตือน โดยส่ง Alarm มาทาง Email ของเรา แต่เราต้องตั้งค่าที่เครื่องมือถือเราให้เกาะ Internet ไว้ตลอดเวลาเหมือนกับเราใช้ Line ที่ต้องมี Internet ใช้ได้ ณ ที่นั้นๆ ในบ้านก็เกาะ Wi-Fi ในบ้าน ออกนอกบ้านก็เปิด Data ของ Mobile ไว้ และตั้งค่า Email ในเครื่องมือถือไว้ให้พร้อมเปิดดูไว้ด้วย เท่านี้ก็พร้อมที่จะรับ Alarm ทาง Email ได้ตลอดเวลาแล้ว ซึ่งก็ไม่เปลืองค่า Internet มากเลยเพราะเป็นการส่งข้อมูลสั้นๆเพื่อแจ้งให้ทราบเท่านั้น มีประโยชน์มากๆจาก Function Alarm นี้หากเราสามารถตั้งค่าให้มันทำงานได้ จะเปรียบเหมือนเรามีเครื่องกันขโมยโดยใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่แล้ว จับความเคลื่อนไหวแล้วเตือนให้เราทราบได้ทันทีหรือหากเรามีตัว Sensor ต่อร่วมอยู่กับ DVR มันก็กลายเป็นเครื่องกันขโมยอย่างสมบูรณ์แบบไปเลยไม่ต้องไม่เสียเงินซื้อเครื่องกันขโมยอีกก็ได้ ซึ่ง Alarm ต่างๆที่ตัว DVR จะแจ้งเตือนเราได้ มีดังต่อไปนี้
1. แจ้งเตือนเมื่อกล้องจับความเคลื่อนไหวได้ อันนี้จะต้องตั้งค่าตำแหน่งในภาพที่กล้องนั้นๆว่าตรงจุดใดในภาพที่ต้องการให้ตรวจจับความเคลื่อนไหวพร้อมกับช่วงเวลาใดอย่างเฉพาะเจาะจงได้ เช่น รูปข้างล่างนี้ ตรงบริเวณตารางสีเขียวให้จับความเคลื่อนไหว (ไม่ได้สนใจพื้นที่ทั้งหมดที่กล้องจับเข้ามา)
และตารางเวลาการเคลื่อนไหว ดังตัวอย่างข้างล่างนี้ ให้สนใจในช่วงเวลาที่กำหนดเป็นสีน้ำเงินเท่านั้น
3. แจ้งเตือนเมื่อสัญญาณภาพจากกล้องขาดหายไป อันนี้เหมือนกับว่าหากกล้องถูกขโมยหรือถูกตัดสายหรือกล้องเสียไปเองก็ให้เตือนเราให้ทราบทันทีทาง Email ด้วย
4. แจ้งเตือนเมื่อ Harddisk เต็ม Function นี้มันจะให้เราตั้งว่า Harddisk เหลือเท่าไรจึงจะให้ส่ง Alarm (เป็น Drop-down ให้เราเลือกได้จาก 0 MB, 128,256,384,512,1024,2048 MB) เพื่อให้เราทราบและจัดการกับ Harddisk หากจำเป็น เช่นเก็บ BackUp หรือ Clear Harddisk ใหม่หรือ ตั้งค่า Harddisk ให้เหมาะสมกว่าเดิมว่าควรจะบันทึกภาพให้ละเอียดเท่าไรดีจะจึงเหมาะสมกับขนาดของ Harddisk ที่เรามีอยู่ ไม่เช่นนั้นอาจพลาด Shot ที่สำคัญไปได้เพราะไม่เคยทราบเลยว่า DVR ที่เรามีอยู่มันสามารถบันทึกได้นานเพื่อดูย้อนหลังไปได้กี่วันแน่ๆ
5. แจ้งเตือน Harddisk อันนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดเพราะมันมีข้อความเพียงว่า "เตือนฮาร์ดดิสก์" เท่านั้นจึงไม่ทราบว่าเตือนอะไรกับฮาร์ดดิสก์ (หากทราบแล้วจะมา Update ข้อมูลตรงส่วนนี้อีกครั้ง)
6. แจ้งเตือนเมื่อ ไม่พบฮาร์ดดิสก์ อันนี้ก็ขอเดาอีกครั้งว่าน่าจะเป็นปัญหาเมื่อ DVR มองไม่เห็น Harddisk ซึ่งน่าจะเป็นอาการของ Harddisk มีปัญหานั่นเองเพื่อให้เราแก้ไข Harddisk ได้ทันท่วงทีไม่เช่นนั้นการบันทึกภาพจากกล้องต่างๆก็จะทำไม่ได้เมื่อ Harddisk ใช้ไม่ได้
ครั้งแรกที่ทดสอบตั้งค่า เซิฟเวอร์อีเมล์ ดังนี้
เซอร์เวอร์อีเมลล์ = smtp.totisp.net (smtp server ของค่าย TOT)
พอร์ต = 25
อีเมลล์ผู้ส่ง = บัญชี gmail ที่ใช้บริการอยู้กับ gmail
รหัสผ่าน = ตามที่ตั้งค่าไว้กับ บัญชี gmail
อีเมลล์ผู้รับ = บัญชี email ของผู้ที่ต้องการให้รับ (ใสได้ 3 อีเมลล์)
ผลจากการตั้งค่าข้างต้น พบว่าไม่สามารถส่ง email หลังจากคลิ๊กปุ่ม "ทดสอบ" ได้ คือทดสอบไม่ผ่าน จึงทดลองเปลี่ยนไปใช้ บริการเซอร์เวอร์อีเมลล์ของ gmail แทนโดยตั้งใหม่ดังต่อไปนี้
เซอร์เวอร์อีเมลล์ = smtp.gmail.com (smtp server ของ gmail)
พอร์ต = 465 (ตามที่ gmail แจ้งไว้)
อีเมลล์ผู้ส่ง = บัญชี gmail ที่ใช้บริการอยู้กับ gmail
รหัสผ่าน = ตามที่ตั้งค่าไว้กับ บัญชี gmail
อีเมลล์ผู้รับ = บัญชี email ของผู้ที่ต้องการให้รับ ในที่นี้ใส่เป็นของตัวเองไว้ก็ได้ (ใสได้ 3 อีเมลล์)
ผลก็ยังไม่ผ่านการทดสอบให้ส่ง email ได้ และยังพบว่าทาง gmail มีการแจ้งเตือนว่าไม่อนุญาติให้ App ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยไม่สูงพอมาขอให้ gmail ส่ง email ให้ด้วย พร้อมทั้งแนะนำวิธีการตั้งค่าเพื่อลดความปลอดภัยของ gmail ลงมาเพื่อให้ gmail ยอมส่ง email ให้ใหม่ แต่ไม่ใช่วิธีที่ปลอดภัยและไม่แนะนำให้ใช้ด้วย จึงทดสอบใหม่โดยเปลี่ยนไปใช้ เซอร์เวอร์อีเมล์ ของ yahoo แทนโดยตั้งค่าดังต่อไปนี้
ผลการตั้งค่าตามรูปข้างบนนี้ ทำให้สามารถทดสอบการส่ง email ได้สำเร็จหลังจากคลิ๊กปุ่ม ทดสอบ แล้วดังรูปข้างล่างต่อไปนี้
รูปขณะกำลังทดสอบหลังจากคลิ๊กปุ่มทดสอบ
หลังจากทดสอบผ่านแล้ว
โดยข้อมูลใน email ทดสอบที่ส่งมาจาก DVR มีข้อมูลเป็นตัวอย่างดังรูปข้างล่างนี้
Device ID: 0, Device Name: EDVR_POP-EYE ตรงกับที่เราตั้งไว้ใน DVR ที่ทำการทดสอบนั้นๆ
Alarm Type: Test SMTP Settings, Time:2015-10-12 11:44:58 คือชนิดของ Alarm ที่ส่งมา และ วันเวลาที่ส่งมา
ต่อไปก็เหลือการทดลองทำให้เกิดเหตุการณ์ที่มี Alarm เกิดขึ้นแล้วดูว่า DVR มันจะส่ง Alarm มาให้ทราบทาง Email อย่างไรต่อไป
ผลการทดสอบ เมื่อทำให้เกิดการเคลื่อนไหว (Motion) ที่ตำแหน่งที่ต้องการตรวจจับไว้ DVR ก็จะทำการส่ง Alarm มาทาง Email ทันที ดังรูปข้างล่างนี้
Channel ID: 1, Camera Name: CAMERA01
Alarm Type: Motion Alarm, Time: 2015-10-12 14:43:48
Channel ID ก็คือ กล้องตัวที่ต่ออยู่ที่ Channel ที่จับความเคลื่อนไหวได้ (ในที่นี้คือ Channel 1)
Camera Name คือ ชื่อของกล้องตัวที่ Channel ข้างต้น ในกรณีชื่อกล้องนี้แนะนำให้ตั้งชื่อกล้องไว้ด้วย และควรตั้งเป็นชื่อ ภาษาอังกฤษ จะดีกว่าชื่อ ภาษาไทย เนื่องจากหากตั้งชื่อกล้องไว้ด้วยมันจะใช้ชื่อที่เราตั้งไว้แทนคำว่า CAMERA01 ซึ่งจะสื่อให้ทราบได้ทันทีใน Email ที่ส่งมาเตือนว่าเป็นการจับความเคลื่อนไหวได้จากกล้องตรงจุดใด เพราะคำว่า CAMERA01 เราอาจจำไม่ได้ว่าเป็นกล้องตรงจุดใดนั่นเอง รวมทั้งหากตั้งชื่อเป็น ภาษาไทย ด้วยแล้วอาจมีปัญหา ชื่อกล้องอาจอ่านไม่ออกก็เป็นได้ เนื่องจากภาษาไทยอาจกลายเป็นรหัสตัวอักษรที่ผิดเพี้ยนไปได้เหมือนกัน จึงแนะนำให้ตั้งเป็นชื่อ ภาษาอังกฤษ จะแน่นอนกว่า อ่านออกแน่นอน แต่ก็ให้ผู้ใช้เข้าใจภาษาอังกฤษนั้นด้วยแล้วกันว่าแปลว่าอะไรหรือหมายถึงกล้องในจุดใดเมื่อใช้ภาษาอังกฤษ
